googleca9db13d132b9d4f.html 0864407089

EP17: เทคนิคขับรถปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงฤดูฝน


หลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยในช่วงนี้ถูกกระหน่ำด้วยสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาพอากาศอันเลวร้ายในฤดูฝนนี้ยังส่งผลต่อการขับรถและความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมากอีกด้วย หากเป็นไปได้ควรพยายามหลีกเลี่ยงการขับรถในสภาพอากาศเลวร้ายและฝนตกหนัก แต่หากมีความจำเป็นต้องขับรถท่ามกลางสภาพอากาศที่แย่จริงๆ

เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงฤดูฝนพร้อมเกร็ดความรู้ต่างๆ ก่อนออกเดินทาง เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนี้

ข้อแนะนำทั่วไปสำหรับการขับรถในสภาพอากาศเลวร้าย

1.ลดความเร็ว
เมื่อถนนเปียก พื้นถนนจะลื่นขึ้น จำเป็นต้องลดความเร็วลง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้สำหรับถนนเส้นนั้นเป็นความเร็วที่ถูกกำหนดให้ใช้ได้ในสภาพถนนปกติเท่านั้น ไม่ควรใช้ความเร็วดังกล่าวเมื่อต้องขับรถบนพื้นถนนเปียก เพิ่มทัศนวิสัยระหว่างฝนตก การมองไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จะทำให้คุณมีโอกาสดีที่สุดในการรับมือกับเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น หนึ่งในทางที่ดีที่สุด คือ การขับรถอยู่ในเลนที่ไม่มีรถข้างหน้าบังสายตา 

2.การขับตามรถคันข้างหน้า (ในระยะห่างที่ปลอดภัย) ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน

เพื่อที่คุณจะสามารถมองเห็นรถคันข้างหน้า รวมถึงพื้นที่ระหว่างรถคันหน้า อย่าขับตามรถบรรทุกคันใหญ่ๆ ที่บดบังทัศนวิสัยของคุณ นอกจากนั้น การเรียนรู้ที่จะใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในรถของคุณ ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถช่วยคุณได้

3.สิ่งที่ต้องปฏิบัติเมื่อเจอผิวถนนที่ชำรุด
ระวังแอ่งน้ำบนถนน แอ่งน้ำเล็กๆ อาจซ่อนหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นหากมีน้ำมากพอ ยางรถยนต์อาจไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทัน และส่งผลให้รถไม่เกาะถนน

4.อย่าขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมสูง
อย่าพยายามขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมในระดับที่คุณไม่สามารถเดินผ่านได้ และระวังจุดที่น้ำท่วมขังอยู่บนพื้นถนน เพราะใต้น้ำท่วมขังอาจไม่มีพื้นถนนอยู่ น้ำท่วมอาจพัดเอาพื้นถนนออกไปทั้งหมด และหากน้ำเข้าไปยังวาล์วไอดีและเครื่องยนต์ รถอาจจะดับ และคุณจะติดอยู่ในรถ

5.ระมัดระวังเป็นพิเศษกับถนนที่เต็มไปด้วยเศษสิ่งของต่างๆ
ระมัดระวังเป็นพิเศษกับเศษซากต่างๆ บนพื้นถนน เช่น ก้อนหิน ที่อาจถูกทำให้เคลื่อนที่โดยสายฝน ซึ่งถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น โดยถนนจะถูกกัดเซาะและทำให้เปลี่ยนสภาพไปจนอาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือสไลด์ของหน้าดิน

6.เตรียมตัวรับมือกับสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น
อันตรายบนท้องถนนไม่เพียงมีสาเหตุจากธรรมชาติ เช่น ก้อนหินและกิ่งไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนเดินเท้าทั่วไป สัตว์ต่างๆ รวมถึงรถคันอื่นที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน

เพื่อหลีกเลี่ยงกับสิ่งเหล่านั้น ควรขับรถให้ช้าพอเพื่อที่จะสามารถสังเกตและมีปฏิกิริยาตอบโต้ได้ทันทีจนสามารถหยุดรถได้สนิท ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น หลักการทั่วไป คือ ระยะห่างจากสิ่งที่เห็นไม่ควรน้อยกว่าสี่เท่าของระยะหยุดรถของคุณ” แม้ว่าคุณจะทำตามข้อแนะนำนี้ทุกข้อแล้ว แต่ในบางสถานการณ์อาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ภายใต้ทัศนวิสัยย่ำแย่ทำให้คุณมีเวลาเตรียมตัวรับมือเพียงน้อยนิด ทั้งนี้การใช้สติในการขับขี่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายได้นะคะ

.

***และที่สำคัญ ควรตรวจสอบประกันภัยรถยนต์ด้วยนะคะ ว่าหมดอายุแล้วหรือยัง

 

๐ ขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 พร้อมให้ความคุ้มครองครอบคลุมจากอุบัติเหตุทุกกรณีและประกันภัย 2+/3+ ที่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ สามารถตอบโจทย์เมื่อเกิดภัยได้นะคะ

มีประกันรถยนต์ติดตัวไว้ อุ่นใจทุกการเดินทาง 

เข้าชมแผนประกันรถยนต์

ประเภท 1      http://bit.ly/2vldZGE

ประกันชั้น2+ http://bit.ly/2KeXCWw

ประกันชั้น3+ http://bit.ly/2K91mch

 

 

 

Visitors: 116,134